ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

What did I really learn on 24 December 2011?

           จากการเรียนอาจารย์มีการอธิบายพร้อมมีตัวอย่างหยิบยกมาเสนอให้กับเรา  ทำให้เราสามารถที่จะเข้าใจได้ง่าย  เพราะโดยปกติแล้วกฎหมายจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเข้าใจได้ยาก  เพราะเนื้อหาเยอะและถ้อยคำเข้าใจยาก  แต่การเรียนในวันนี้ทำให้เข้าใจในเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายอาญาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน  พร้อมกันนี้อาจารย์ยังมีการชี้ช่องให้เห็นว่ากฎหมายยังมีช่องว่างทางกฎหมายอยู่  ทำให้บุคคลต่างๆที่กระทำความผิด  สามารถใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดของตนเองไปได้ 
            พร้อมกันนี้อาจารย์ยังได้สอนเกี่ยวกับรูปแบบของการทำงานในอดีตและปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ การทำงานในอดีตเราจะทำงานเป็นเวลาที่แน่นอน ตายตัว  แต่ในปัจจุบันการทำงานสามารถที่จำได้ตลอด 24 ชั่วโมง การทำงานในอดีตเราจะทำงานในออฟฟิต  แต่ในปัจจุบันไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถที่จะทำงานได้เช่นเดียวกัน  

            จากการที่ได้เรียนในวันนี้ทำให้ทราบเกี่ยวกับกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ  กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานซึ่งสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 3 ภาค ด้วยกันคือ
            (1).ภาค 1 บทบัญญัติทั่วไป
            (2).ภาค 2 ภาคความผิด
            (3).ภาค 3 ลหุโทษ
            กฎหมายอาญา คือ กฎหมายที่ว่าด้วยความผิดและโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิด ตัวบทที่สำคัญๆ ของกฎหมายอาญาก็คือ ประมวลกฎหมายอาญา นอกจากประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีพระราชบัญญัติอื่นๆที่กำหนดโทษทางอาญาสำหรับการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินั้น เช่น พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พระราชบัญญัติการพนัน เป็นต้น
            ทุกสังคมย่อมมีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับความประพฤติของสมาชิกในสังคมนั้นๆ บุคคลใดมีการกระทำที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสังคมหรือคนส่วนใหญ่ จัดเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ดังนั้นกฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันสังคม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยการกำหนดว่า การกระทำใดเป็นความผิดอาญาและได้กำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืน กระทำความผิดนั้นๆ
           
            ลักษณะสำคัญของกฎหมายอาญา
            (1).เป็นกฎหมายที่กำหนดเป็นความผิดชัดแจ้ง ในขณะกระทำความผิดต้องมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วอย่างชัดแจ้งว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด เจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมายจะสร้างกฎหมายใหม่ขึ้นมาใช้บังคับแก่ประชาชนคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะไม่ได้ เช่น กฎหมายบัญญัติว่า การลักทรัพย์เป็นความผิดดังนั้น ผู้ใดลักทรัพย์ก็ย่อมมีความผิดเช่นเดียวกัน
            (2).เป็นกฎหมายที่ไม่มีผลย้อนหลัง เป็นโทษไม่ได้แต่เป็นคุณได้ ถ้าหากในขณะที่มีการกระทำสิ่งใดยังไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แม้ต่อมาภายหลังจะมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำอย่างเดียวกันนั้นเป็นความผิด ก็จะนำกฎหมายใหม่ใช้กับผู้กระทำผิดคนแรกไม่ได้
           
            โทษทางอาญา
                1) ประหารชีวิต คือ นำตัวไปยิงด้วยปืนให้ตาย
                2) จำคุก คือ นำตัวไปขังไว้ที่เรือนจำ
                3) กักขัง คือนำตัวไปขังไว้ ณ ที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ เช่น นำไปขังไว้ที่สถานีตำรวจ
                4) ปรับ คือ นำค่าปรับซึ่งเป็นเงินไปชำระให้แก่เจ้าพนักงาน
                5) ริบทรัพย์สิน คือ ริบเอาทรัพย์สินนั้นเป็นของหลวง เช่น ปืนเถื่อน ให้ริบ ฯลฯ
           
            มีการกระทำ มี 2 ประเภท
            (1).โดยเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ทางตรงได้แก่ ใช้ปืนยิง ทางอ้อมได้แก่ ใส่ยาพิษในอาหาร
            (2).โดยไม่เคลื่อนไหวร่างกาย คือ การงดเว้นหน้าที่ และการละเว้นหน้าที่
           
            องค์ประกอบของความผิด มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ
            (1).องค์ประกอบภายนอก ได้แก่ การกระทำและสิ่งต่าง ๆ ที่กฎหมายอาญาบัญญัติว่าเป็นความผิด เท่าที่ปรากฏออกมา
            (2).องค์ประกอบภายใน ได้แก่ เป็นเรื่องที่กฎหมายที่กำหนดความผิดได้กำหนดไว้เกี่ยวกับจิตใจของผู้กระทำผิด

What did I learn on youtube? # 3



การดำเนินธุรกิจกับความเกี่ยวข้องกับกฎหมาย

          จากการศึกษาคลิปวิดีโอนี้แล้วสามารถสรุปใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้
            สิ่งที่สำคัญที่สุดของนการเรียนรู้กฎหมายก็คือ  เราจะต้องมองภาพให้ออกว่ากฎหมายมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่แท้จริงที่ดำเนินธุรกิจอยุ่ในปัจจุบันอย่างไรนั่นเอง 
ก่อนอื่นเราก็จะมาเรียนรู้กันก่อนว่าคำว่า  ธุรกิจ คืออะไร  ธุรกิจเป็นสิ่งที่คนเรารวมกลุ่มกันแล้วร่วมทุนกัน จากนั้นก็ทำกิจกรรมร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรและมีความเสี่ยงต่อการขาดทุน โดยการดำเนินธุรกิจร่วมกัน เมื่อได้กำไรมาแล้วก็นำกำไรดังกล่าวมาแบ่งบัน
            กฎหมาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจในองค์กรนั้นก็คือ เพื่อช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม ก็คือ ในการดำเนินธุรกิจนั้นจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกับบุคคลหลากหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า ลูกค้า ก็ล้วนอาศัยกันทำงานร่วมกับผู้อื่น อย่างเช่นเมื่อมีการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์กับบุคคลอื่น ถ้ามีข้อตกลงที่เป็นหลักเป็นการหรือเป็นหลักฐานที่มั่นคง ก็จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง มั่นใจ และอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ
            การดำเนินธุรกิจนั้นก็เริ่มต้นจากสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราถนัด อาจจะเป็นสิ่งที่เราเรียนมาหรือเราไม่ได้เรียนก็ก็ได้เช่นเดียวกัน  จากนั้นก็จัดหาคนหรือแรงงาน  ทรัพย์มาร่วมทุน ร่วมหุ้น ร่วมแรงกัน  จากนั้นก็เลือกองค์กรธุรกิจให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง  ซึ่งประเภทขององค์กรธุรกิจนั้นก็มีมากมายหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น  ร้านค้าพาณิชย์  ห้างหุ้นส่วนสามัญ  ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน  ห้างหุ้นส่วนจำกัด  และบริษัทจำกัดมหาชน  ต่อจากนั้นเราก็จะดำเนินธุรกิจ  ซึ่งการดำเนินธุรกิจนั้นก็มีส่วนประกอบหลายส่วนด้วยกันหรือจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อต่างๆในการดำเนินธุกิจดังต่อไปนี้อย่างแน่นอน  โดยเริ่มจาก
            (1).การจ้างคนเข้าทำงาน มีการจัดตั้งฝ่ายบุคคลเพื่อคัดสรรคนเข้าทำงานกับองค์กร โดยจะต้องเลือกคนให้ถูกและเลือกให้เป็นหรือที่เรียกว่า “Put the right man on the right job” นั่นเอง
            (2).การจ่ายผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีการแบ่งปันผลกำไรซึ่งกันและกัน แต่ถ้ามีการขาดทุนก็ต้องมีการรับผิดร่วมกันด้วย
            (3).การติดต่อธุรกิจการค้า ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะธุรกิจต้องมีการซื้อ การขาย การแลกเปลี่ยน การจ้างต่างๆ
            (4).การทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงินต่างๆมาลงทุนในกิจการของตน
            (5).การคิดค้นนวัตกรรม ในปัจจุบันบริษัทต่างๆก็คิดค้นนวัตกรรมของตนเอง หรือที่เรียกว่า Research & Development (R&D) นั่นเอง เพื่อค้นค้าวิธีการใหม่ๆหรือนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่งขันของตนเองนั่นเอง
            (6).การเกิดกรณีพิพาท การดำเนินธุรกิจนั้นอาจจะมีข้อพิพาทเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องควบคุมกำกับดูแลให้มีข้อพิพาทกับองค์กรหรือบุคคลต่างๆให้น้อยที่สุด
            ซึ่งที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนั้นก็คือการจัดตั้งองค์กรนั่นเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายหุ้นส่วนบริษัท และกฎหมายบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องในการจัดตั้ง และอำนาจหน้าที่ในการจัดตั้งองค์กร 
            ในส่วนต่อไปที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายก็คือ  องค์ประกอบในการดำเนินธุรกิจนั่นเอง  โดยเริ่มจากข้อแรกก็คือ
            (1). การจัดจ้างคนเข้าทำงาน ในส่วนนี้จะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็คือ สัญญาจ้างแรงงาน กฎหมายแรงงาน พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ และกฎหมายบุคคล ซึ่งทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายการจ้างคนเข้าทำงาน
            (2).การจ่ายผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ก็มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ กฎหมายหุ้นส่วนบริษัท และกฎหมายบุคคล
            (3).การติดต่อธุรกิจการค้า กฎหมายที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนนี้ก็คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ นิติกรรมสัญญา สัญญาซื้อขาย สัญญาเช้าทรัพย์ สัญญาเช่าซื้อ และสัญญาจ้างทำของ ซึ่งมีมากกว่านี้ แต่ในเบื้องต้นจะต้องรู้และเข้าใจกฎหมายทั้ง 5 ส่วนนี้ก่อนเป็นเบื้องต้น
            (4).การทำธุรกรรมทางด้านการเงิน ซึ่งได้แก่การกู้ยืมเงิน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็คือ กฎหมายหนี้ กฎหมายสัญญายืม กฎหมายค้ำประกัน กฎหมายจำนอง และกฎหมายจำนำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการหรือผู้ดำเนินธุรกิจจะต้องมีความเข้าใจเป็นอันดับแรกๆ เพราะมีความสำคัญ
            (5).การคิดค้นนวัตกรรม ในปัจจุบันนี้ก็มีการคิดค้นนวัตกรรมต่างที่แปลกใหม่อย่างกว้าง ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากให้นวัตกรรมของตนเองนั้นถูกใครเลียนแบบอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิในนวัตกรรมของตนเอง ก็มีกฎหมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับส่วนนี้ก็คือ กฎหมายลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ซึ่งประเทศไทยยังอ่อนด้อยในข้อนี้อยู่เป็นอย่างมาก
            (6).การกรณีพิพาท ต้องมีการเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดอย่าง
ดังนั้นจะต้องมีกฎหมายมีเกี่ยวข้อง ก็คือกฎหมายสัญญาประนีประนอมยอมความ เพื่อให้จบลงด้วยดีนั่นเอง
            ซึ่งเราสามารถกล่าวสรุปได้คือ  ไม่มีขั้นตอนไหนของการดำเนินธุรกิจที่จะไม่มีกฎหมายไปเกี่ยวข้อง  ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทุกๆขั้นตอนนั่นเอง  ซึ่งมีส่วนประกอบของกฎหมายต่างๆที่ผู้ดำเนินธุรกิจจะต้องรู้และเข้าใจเป็นเบื้องต้นและสามารถนำไปปฏิบัติได้  ซึ่งการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายธุรกิจนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเรียนก็คือ รู้จำ รู้เข้าใจ รู้นำไปใช้ นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากในการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจที่มีกฎหมายเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง 



วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การวิเคราะห์นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัท Expeditors




Strategic Human Resource Management Activities
การวิเคราะห์กิจกรรมทางด้านกลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์
           
            Expeditors เป็นบริษัทโลจิสติกระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน Seattle, Washington ในฐานะที่เป็นบริษัท ที่ติดอันดับ Fortune 500 บริษัทมีการจ้างพนักงานมากกว่า 13,000 คน มีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมในเครือข่ายทั่วโลกของกว่า 250 แห่งใน 6 ทวีป 
            Expeditors ตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นของการค้าระหว่างประเทศผ่านทางโซลูชันที่กำหนดเองและไม่มีรอยต่อระบบข้อมูลแบบบูรณาการ บริการของบริษัทรวมการขนส่งทางอากาศและทะเล  และการส่งต่อรวมของผู้จำหน่ายพิธีการศุลกากรและการประกันภัยการขนส่งสินค้า, การจัดจำหน่ายและค่าบริการอื่น ๆ ที่ Expeditors นั้นมีความภูมิใจในการเป็นองค์กรโซลูชั่น และใช้เวลาในการเข้าใจความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละบุคคล ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ไม่ใช่สินทรัพย์ที่บริษัทมีความยืดหยุ่นมากในการจัดการโซ่อุปทานของลูกค้า เนื่องจากความสัมพันธ์ของบริษัทกับซัพพลายเออร์และคู่ค้าในท้องถิ่นทางอากาศและทะเลทั่วโลก 
บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าด้วยการกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดและตัวเลือกการกำหนดราคา 
ที่ครอบคลุมคลื่นความถี่ของเรามีความยืดหยุ่นในการให้บริการได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำที่ให้บริการในระดับสูงเพื่อรักษาคุณภาพที่สอดคล้องกันและการให้บริการลูกค้าทั่วโลก
           Expeditors มีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคตั้งอยู่ในลอนดอน, เซาเปาโล,เบรุตและเซี่ยงไฮ้
           
            1). Human Resource Philosophy (ปรัชญาในการดำเนินงาน)         
            Expeditors International   มีความมุ่งมั่นในที่จะสร้างมาตรฐานสูงสุดในการดำเนินธุรกิจการทำตามกฎหมายและจริยธรรม และทำตามมาตรฐานของกฎหมาย จริยธรรม และกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามในแต่ละประเทศ
            Expeditors มีเครื่องมือที่จะเตือนใจให้กับกรรมการเจ้าหน้าที่และพนักงานของบริษัทปราศจากจากความรุนแรง พร้อมทั้งสร้างความมุ่งมั่นของที่จะปฏิบัติตามกฎหมายนี้และในมาตรฐานสูงสุดของการดำเนินธุรกิจมีผลบังคับใช้สำหรับกรรมการ เจ้าหน้าที่และพนักงานในทุกๆคนและทุกๆระดับชั้น


            2). Human Resource Policies   (นโยบายการดำเนินงานเกี่ยวกับพนักงาน)        
            Expeditors มีความมุ่งมั่นในการสร้างศีลธรรมและทำตามกฎหมายที่จะทำให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน และความเท่าเทียมกันตามความต้องการของตำแหน่งหน้าที่ 
            การจ้างงานของบริษัท Expeditors นั้น  จะมีนโยบายที่เท่าเทียมกัน  ห้ามการเลือกปฏิบัติที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับเชื้อชาติเพศรสนิยมทางเพศสถานภาพการสมรส, อายุ, สี, ศาสนา, ลัทธิ, ชาติกำเนิดความพิการสถานะทหารผ่านศึกหรืออื่น ๆ ที่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย นโยบายนี้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจ้างงานทั้งหมดรวมทั้งผู้ที่อยู่ในการเชื่อมต่อกับการจัดหา การจ้างงาน การฝึกอบรมการส่งเสริมการชดเชยผลประโยชน์และการเลิกจ้างทั้งหมดข้อกำหนดและเงื่อนไขของการจ้างงาน ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาและผู้จัดการจะมีค่าบริการที่มีความรับผิดชอบในการป้องกันการเลือกปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จของนโยบายเท่ากับ Expeditors โอกาสที่การจ้างงานจริงขึ้นอยู่กับทัศนคติที่เป็นกลางและการกระทำของพนักงานแต่ละคน บริษัท Expeditors จะไม่ยอมให้ดำเนินการเพื่อข่มขู่ใด ๆ ที่ก่อกวนหรือเลือกปฏิบัติกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
           
          3). Human Resource Programs (โปรแกรมการบริหารบุคคล)  
          มีการออกแบบรูปแบบที่ใช้ในการสื่อสารและการเรียนรู้ของพนักงานทุกคน มีการฝึกอบรมร่วมกันของพนักงานตั้งแต่เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกัน
           
          4). Human Resource Practices (การปฏิบัติของฝ่ายทรัพยากรบุคคล)  
            Expeditors จะไม่ยอมรับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของมาตรฐานแรงงาน Expeditors ห้ามมิให้บังคับ ผูกมัด หรือบังคับแรงงาน Expeditors จะไม่จ้างแรงงานอายุต่ำกว่าที่กฎหมายยกำหนดขั้นต่ำสำหรับการจ้างงานรวมทั้งในประเทศเหล่านั้นอยู่ภายใต้อนุสัญญา ILO ฉบับที่ 138 ว่าด้วยอายุขั้นต่ำ พนักงานไม่จำเป็นต้องยื่นเงินฝากเงินหรือเอกสารประจำตัว (เช่นหนังสือเดินทางหรืออื่น ๆ ที่ออกโดยภาครัฐบัตรประจำตัวประชาชน) ด้วย Expeditors พนักงานมีสิทธิและการเยียวยาทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมายแรงงานและการจ้างงานที่ใช้บังคับ
            Expeditors ส่งเสริมให้พนักงานทั้งหมดที่จะเข้าร่วมในการชุมชุมและกิจกรรมทางการเมือง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว พนักงานมีส่วนร่วมและการแสดงมุมมองของพนักงานเองนั้นก็เป็นความคิดเห็นพลเมืองแต่ละบุคคลและไม่ได้เป็นตัวแทนของ Expeditors

            5). Human Resource Process (กระบวนการบริหาร HR) 
            บริษัทมีการกำหนดการวางตำแหน่งของพนักงานที่เหมาะสม ซึ่งต้องผ่านการประเมินทักษะพื้นฐานในความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงาน และยังคัดเลือกพนักงานให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่ง  เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 
            Expeditors ดำเนินงาน มีการออกแบบกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอน ให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีการวางแผนการดำเนินงาน มีการกำหนดความรับผิดชอบและหน้าที่อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญและความชำนาญของพนักงานเพื่อให้มีการดำเนินงานที่ฉับไวและทันต่อความต้องการของลุกค้าทั่วโลก 

            ในการจัดการทรัพยากรบุคคลของ Expeditors นั้น Expeditorsจะให้ความสำคัญไปที่พนักงานเป็นสำคัญ โดยถือว่าพนักงานทุกคนเป็นทรัพย์สินที่มีค่าของบริษัท โดยการสรรหา  
การสร้างแรงจูงใจและรักษาบุคลากรที่ดีที่สุดในธุรกิจของเรารู้สึกว่าเราจะรักษาตำแหน่งผู้นำของเราในตลาด ธุรกิจของเราคือการบริการลูกค้าที่มีคุณภาพและคนของเราเป็นสิ่งที่ทำให้ที่เกิดขึ้น เราจ้างบุคคลขึ้นอยู่กับทัศนคติ  สำหรับทักษะในการที่จะทำให้เป็นอาชีพที่ประสบความสำเร็จที่นี่ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอาชีพและการประเมินผลงานโดยรวมของพนักงานของเราจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 52 ชั่วโมงของการฝึกอบรมต่อปี

            Expeditors ห้ามไม่ให้พนักงานมีการร้องขอหรือรับผลประโยชน์ส่วนบุคคลสำหรับบริการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือการพิจารณาอื่น ๆ โดยตรงหรือโดยอ้อมในการแลกเปลี่ยน นอกจากนี้พนักงานที่ถูกห้ามไม่ให้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติที่เป็นหรือจะปรากฏอยู่ในความขัดแย้งกับผลประโยชน์ของ Expeditors หรือลูกค้าของบริษัท

            ส่วนในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมนั้น Expeditors มุมมองการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญทางธุรกิจในเขตอำนาจศาลทั้งหมดที่เรามีพนักงานและผู้ให้บริการการดำเนินธุรกิจในนามของเรา ดังนั้นเพื่อปกป้องชุมชนของเรา Expeditors มีความสอดคล้องกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบที่ใช้กับธุรกิจของเรา Expeditors ยังมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาสติขององค์กรที่มีความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงการดำเนินงานและการพัฒนานวัตกรรมที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่ได้รับการสนับสนุน Expeditors ตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมดที่ออกแบบมาเพื่อการคุ้มครองและอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญ
            Expeditors ส่งเสริมให้พนักงานทั้งหมดและผู้ให้บริการมีส่วนร่วมในความมุ่งมั่นในคุณภาพของสิ่งแวดล้อมนี้ Expeditors มีโอกาสมากสำหรับพนักงานและผู้ให้บริการของ บริษัท ที่จะเข้าร่วมในการแสวงหานี้รวมถึง:
  • ให้การฝึกอบรมให้กับพนักงานเกี่ยวกับวิธีการเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นนี้
  • ส่งเสริมให้พนักงานที่จะเข้าร่วมทีมงานของโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของเรา
  • การสื่อสารความคาดหวังด้านสิ่งแวดล้อมของเรากับผู้ให้บริการ
  • ด้วยการร่วมมือกับลูกค้าและผู้ให้บริการเกี่ยวกับทางเลือกในการขนส่งที่มีทั้งมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
  • แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าไปยังวัดในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของเราและสิ่งอำนวยความสะดวกกับลูกค้าของเรา
  • ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานทุกคนอาจจะมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามนโยบายของเรา
  • การแสวงหาความช่วยเหลือและใส่ของพนักงานของเราในความคิดเห็นของเราเป็นระยะของการปฏิบัติตามภาระผูกพันของเรากับสิ่งแวดล้อม Expeditors
  • การสื่อสารกลยุทธ์ของเราริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันและความสำเร็จในเว็บไซต์ของเราภายใน

นายศิริชัย สืบตั๋น           54101246

นางสาวศิริรัตน์ ชัยมงคล  54101253

นายรักษิต วงมงคล        54102007


การจัดการโลจิสติกส์



What did I really learn on 10 December 2011?

            จากการเรียนวันนี้ในส่วนแรกทำให้ทราบว่าความต้องการในการจ้างงานขององค์กรในปัจจุบันนี้เปลี่ยนจากแรงงานแบบดั้งเดิมกลายมาเป็นแรงงานที่อาศัยศิลปะเข้ามาผสมผสานในการทำงานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน 
            ทำให้ทราบว่าในปัจจุบันนี้การคัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงานในองค์กรนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ  มีการเลือกคนในถูกกับงาน  ให้ตรงกับความสามารถของพนักงานแต่ละคน  รวมไปถึงทำให้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้วนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้นผู้ที่ตัดสินใจแท้ที่จริงแล้วคือตัวผู้บริหาร  ส่วนแผนกทรัพยากรบุคคลนั้นเพียงส่วนที่ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ  ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารผู้ซึ่งกำหนดและตัดสินใจในเรื่องของทรัพยากรบุคคล
            และยังทำให้ทราบว่าการที่องค์กรนั้นทุกๆองค์กรนั้นก็ล้วนต้องการคนเก่งเข้ามาทำงานให้องค์กรของตนเอง  และเมื่อได้คนเก่งเข้ามาเป็นบุคลากรในองค์กร  ก็ย่อมต้องการให้องค์กรดำเนินงานไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด  ซึ่งการที่องค์กรมีคนเก่งแต่คนเก่งกลับไม่ได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถของตนเองก็ย่อมเท่ากับว่าเสียโอกาสที่ดีไป  ดังนั้นเมื่องค์กรต้องการผลงานจากบุคลากรในองค์กรก็ย่อมที่จะต้อง  ให้คนเก่งเป็น Leader ที่ดี” ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพ และเกิดผลงานที่ดีต่อองค์กร
           รวมไปถึงทำให้ทราบเกี่ยวกับ HRM Strategy, Policy and Planning ว่ามีความสำคัญต่อผลงานและการพัฒนาขององค์กร รวมถึงให้ทราบถึงขั้นตอนในการกำหนดกลยุทธ์ว่าจะต้องมีขั้นตอนหรือรูปแบบเป็นอย่างไร ทำให้ทราบถึงการกำหนดนโยบายที่สำคัญขององค์กร ว่าการกำหนดนโยบายอย่างไรจึงจะเป็นนโยบายที่ดีและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และยังทราบถึงการวางแผนต่างๆขององค์กรว่าจะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

What did I learn on youtube? # 2

 


Integrated Logistics Systems
            คือรูปแบบหรือเทคนิค วิธีการที่เข้ามาผสมผสานเพื่อช่วยให้การจัดการปฏิบัติงานทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการกระจายสินค้า เทคโนโลยีซึ่งมีส่วนสำคัญในการดำเนินงานในปัจจุบันให้มีความถูกต้องแม่นยำ  และรวดเร็วขึ้น  ซึ่ง Integrated Logistics Systems นี้สามารถที่จะแบ่งกลยุทธ์ในการดำเนินงานได้หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น
           
            1). Direct Product Profitability (DPP)
            เป็นรูปแบบหรือเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการจัดการปฏิบัติงาน  เพื่อเพิ่มความสามารถในการค้าปลีก  การขายสินค้า  การกระจายสินค้ารวมไปถึงการจัดการงบประมาณในการกระจายสินค้า  DPP ช่วยให้เราทราบต้นทุนของสินค้า การกำหนดกลยุทธ์ในการขายสินค้า ซึ่งส่งผลต่อการกำหนดราคาและการได้มาของกำไร ซึ่ง DPP จะมุ่งเน้นไปที่การทำผลกำไรของการค้าปลีก รวมทั้ง DPP ยังจะช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายในการปฏิบัติได้อีกทางหนึ่ง DPP ยังช่วยในระบบการขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยให้ระบุต้นทุนของสินค้าแต่ละประเภทได้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เป็นข้อมูลที่สามารถหาได้อย่างง่าย เพื่อใช้เป็นข้อมูลของต้นทุนสินค้าและนำไปใช้ในการวางแผนเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในขั้นตอนต่อไป

            2). Materials Requirements Planning
          เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสนับสนุนในการจัดการกับวัตถุดิบที่จำเป็นของรายงานสินค้า  ช่วยในการตัดสินใจในวัตถุดิบต่างๆ  รวมไปถึงการจัดการบุคคล  การจัดหาสินค้าของรายการสินค้า ซึ่งมีผลต่อการวางแผน  การปรับปรุงในการจัดการทรัพยากรขององค์กรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  พร้อมทั้งยังช่วยในการปรับปรุงในเรื่องของสินค้า และยังช่วยในการควบคุมและลดต้นทุนของสินค้า  ทำให้การวางแผนการกำหนดเกี่ยววัตถุดิบของสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

            3).Distribution Requirements Planning
          เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการกระจายสินค้า  เพื่อให้ทราบถึงสินค้าคงคลังที่เหลืออยู่ทำให้สามารถจัดการสินค้าและกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังช่วยในเรื่องของการได้มาของของวัตถุดิบจากแหล่งวัตถุดิบ  ทำให้สามารถทำให้ระบบของการกระจายสินค้าทำได้อย่างถูกที่  ถูกเวลา มากยิ่งขึ้น  พร้อมทั้งยังสามารถช่วยในการปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าได้
           
            4).Just in Time (JIT)
            คือการจัดการการส่งสินค้าหรือการผลิตสินค้าให้ทันเวลากับความต้องการของลูกค้า 
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของสินค้า  ช่วยให้กำหนดการผลิต  การส่งมอบสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  พร้อมทั้งยังช่วยให้เกิดการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์  และไม่เสียเวลา
          กล่าวโดยสรุปก็คือ ช่วยทำให้สินค้าที่ต้องการ ไปยังในเวลาที่พอดี ด้วยจำนวนที่ต้องการ  ซึ่งใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นเครื่องกำหนดปริมาณการผลิตและการใช้วัตถุดิบ



วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Introduce My Self on Youtube


การวิเคราะห์นโยบายของบริษัท Expeditors

           นโยบายของบริษัทจะเน้นไปที่ Soft HRM คือจะมีการฝึกอบรมและพัฒนาความสามารถและทักษะของบุคลากรอีกทั้งมีการศึกษาภายในและภายนอกซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถที่จะมั่นใจได้ว่าพนักงานขายและการดำเนินงานขององค์กรจะดำเนินไปด้วยพนักงานที่มีความรู้และความสามารถ ในการเข้าใจและสนับสนุนความต้องการของห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนของลูกค้าอุตสาหกรรมขององค์กร  ซึ่งนโยบายของทางองค์กรในการที่จะพัฒนาบุคลากรในองค์กรนี้ สามารถที่จะแบ่งออกได้เป็นหัวข้อดังต่อไปนี้ 
            1).เน้นพื้นฐานของการทำงานเป็นทีม รู้วิธีการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความสำเร็จขององค์กร ซึ่งจะทำให้องค์กรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดี
            2).ในเรื่องของนโยบายจะมุ่งเน้นสังคมโดยรวม คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นดูแลสิ่งแวดล้อม และบุคลากรขององค์กรที่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจการขององค์กร อีกทั้งยังใส่ใจในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคลากรทุกๆคน  ในทุกๆระดับชั้น  เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความเป็นเลิศในการขนส่งทั่วโลกขององค์กร
            3).กระตุ้นให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กร
            4).มีการจ้างงานนักเรียนมัธยมให้มาทำงานในองค์กร ซึ่งก็เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสในการที่จะสัมผัสกับประสบการณ์ในการทำงานอย่างแท้จริง ซึ่งมีการปฏิบัติงานจริง ดำรงตำแหน่งในองค์กรจริง อีกทั้งยังได้รับการให้คำปรึกษาและมีโอกาสที่จะพัฒนาทักษะงานพื้นฐานขององค์กร
            5).เปิดโอกาสให้บุคลากรมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองทั้งด้านความรู้และทักษาในการประกอบอาชีพ  เพื่อที่จะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้บริษัทก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายศิริชัย สืบตั๋น             54101246
นางสาวศิริรัตน์ ชัยมงคล  54101253
นายรักษิต  วงมงคล         54102007 
การจัดการโลจิสติกส์

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

What did I learn on youtube? # 1


HR Management : Recruiting Employees


            ในการคัดสรรหาพนักงานนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ของบริษัท  โดยที่จะมีการคัดสรรที่มีความยุติธรรมและโปร่งใส  เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของบริษัท 
            แบ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในการคัดสรรคนสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ คือ
            (1).ปัจจัยภายนอก คือ คัดเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมทั้งมีการฝึกฝนอย่างหนัก     เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพ และคัดเลือกพนักงานให้เหลือน้อยที่สุดและให้มีคุณภาพมากที่สุดที่จะคัดเลือกมา
            (2).ปัจจัยภายใน คือ ความสอดคล้องกันของความพยายามของบริษัทในการหาพนักงานใหม่ๆกับ เป้าหมายของบริษัท ซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกันและสอดคล้องกัน  รวมทั้งยังต้องคัดสสรพนักงานที่มีทักษะความสามารถสูง  เป็นตัวของตัวเอง
            แหล่งที่มาของผู้สมัครมาจากหลายแหล่งไม่ว่าจะเป็น การรับสมัครงานทางอินเตอร์เน็ท  การโฆษณา  การหาทางบริษัทจัดหางาน  คัดเลือกจากมหาวิทยาลัย เป็นต้น
           ซึ่งคำตอบทั้งทั้งหมดของการคัดสรรหาพนักงานใหม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นสำคัญพร้อมทั้งอาศัยความร่วมมือระหว่างแผนกต่างๆ  เพื่อทีจะให้การคัดสรรพนักงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด 

Personal Statement

            ผมนายรักษิต  วงมงคล  ผมสำเร็จการศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษาจากสาขาประวัติศาสตร์คู่ขนาน   การท่องเที่ยว  จากคณะสังคมศาสตร์  และคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร  ในช่วงที่กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่นั้น  ผมได้ทำกิจกรรมต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมรับน้องของทางมหาวิทยาลัย  การรับน้องของคณะ  การรับน้องของภาควิชา  การจัดนิทรรศการ 40 ปี ประวัติศาสตร์ ของคณะสังคมศาสตร์ จัดนิทรรศการจัดแสดงของภาควิชาการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ต้องทำงานเป็นทีม ต้องมีความอดทน และรับทราบความรู้สึกของผู้อื่น รวมไปถึงการเรียนในสาขาวิชานี้ได้หล่อหลอมให้ผมเป็นผู้ที่มีจิตใจที่รักในการบริการและรักในงานด้านบริการ 
จนเมื่อสำเร็จการศึกษา  จึงได้มุ่งความสนใจไปที่การเรียนต่อระดับบัณฑิตศึกษาหรือระดับปริญญาโท  ต่อทันทีเพราะจะได้มีการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง  และเนื่องด้วยผมเองได้ทำธุรกิจครอบครัวอยู่ซึ่งก็ต้องอาศัยการบริหาร  การจัดการ  รวมไปถึงการบริการ  ผมจึงมีความชอบในงานด้านนี้เป็นพิเศษ  ประกอบกับที่ผมได้เห็นการประชาสัมพันธ์ของคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ในช่วงนั้นว่าทางคณะได้เปิดสาขาวิชา  การจัดการโลจิสติกส์พอดี  เลยสนใจกับสาขานี้  เพราะเนื่องด้วยเป็นศาสตร์ที่ยังใหม่อยู่มากสำหรับประเทศไทย  แม้ว่าจะมีมานานแล้วในโลกตะวันตก และเอเชียเอง  แต่ประเทศไทยนั้นยังคงขาดความรู้ความเข้าใจ  และยังขาดบุคลากรด้านนี้อยู่  จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะศึกษาต่อในศาสตร์ของโลจิสติกส์
ซึ่งการดำเนินการขององค์กรต่างในปัจจุบันนี้ก็ล้วนที่จะใส่ใจเรื่องของการบริการมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการบริการของผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา  ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการกับลูกค้า  ก็ล้วนต้องอาศัยการติดต่อที่ดี  มีการบริการที่ดี และด้วยการดำเนินการขององค์กรนั้นๆจะลุล่วงสำเร็จไปได้ด้วยก็ต้องอาศัยพลังขับเคลื่อนของพนักงานทุกๆคน  ทุกๆตำแหน่งซึ่งล้วนมีความสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย     จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่องค์กรจะเอาใส่ใจในสวัสดิการของพนักงานทุกคน  ทุกๆระดับชั้น  จึงเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับองค์กรในปัจจุบันที่เริ่มมาให้ความสำคัญกับการบริหารมากขึ้น  เพื่อที่จะให้ลูกค้าเกิดความประทับทั้งตัวสินค้าและการบริการขององค์กรนั้น  จนเกิดความจงรักภักดีต้อสินค้าของบริษัท  และเป็นที่แน่นอนว่าศาสตร์ของโลจิสติกส์เองก็ต้องอาศัยการบริการลูกค้าเหมือนกันกับศาสตร์การบริการด้านอื่น  เพราะต้องทำการติดต่อลูกค้าอยู่ตลอดเวลา  เพราะฉะนั้นผมจึงอยากที่จะศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา ในสาขาวิชา  การจัดการโลจิสติกส์นั่นเอง 

นายรักษิต  วงมงคล 54102007 
การจัดการโลจิสติกส์

What did I learn on Saturday? (3rd December 2010)

1).เพิ่มพูนความเข้าใจในเรื่องของการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลขององค์การ ซึ่งสามารถ
นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคตของการทำงาน
2).ทำให้ทราบว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของแต่ละองค์กรของพนักงานทุกๆคน และการที่องค์กรจะพัฒนา
ไปทางไหน  ก็ล้วนเป็นผลจากการขับเคลื่อนของบุคลากรในขององค์กรเป็นหลัก
3).ทำให้ทราบเกี่ยวกับรูปแบบของการจัดโครงสร้างขององค์กร
4).ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาด้านบุคคล เพราะประเทศไทยยังขาดการให้
ความสำคัญกับงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรขององค์กร
5).ทำให้ทราบถึงการแบ่งประเภทของ Human Resource Management ว่าสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ Hard HRM และ Soft HRM ซึ่งแต่ละประเภทก็ทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน  มีความสำคัญและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี 


นายรักษิต  วงมงคล 54102007
สาขาวิชา การจัดการโลจิสติกส์

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

CV

นายรักษิต   วงมงคล
112/2  หมู่ 6 ตำบลวัดตายม
อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก 65210
อีเมล์raksitchocolate@hotmail.com
 มือถือ 08-5054-1846

จุดมุ่งหมายในการประกอบอาชีพ
            ต้องการใช้ความรู้ทางด้านการจัดการโลจิสติกส์และงานด้านการบริการ ในการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ และด้านงานการบริการขององค์การ  เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งให้การบริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อองค์การ

 ประวัติการศึกษา
            มิถุนายน 2554 
            กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ 
สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์  มหาวิทยาลัยนเรศวร
            พฤษภาคม 2553 
            ปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ สาขาวิชาการท่องเที่ยว
มหาวิทยาลัยนเรศวร 
          พฤษภาคม 2552 
            ปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร 


ประสบการณ์การทำงาน
             2 พฤศจิกายน 2553 – 31 มกราคม 2554                                                
            ฝึกงานตำแหน่ง ดูแลด้านงานเอกสาร  บริษัท แฝดทัวร์ จำกัด
หน้าที่  ดูแลเอกสารเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ทริปทัวร์ของทางบริษัท  อัพเดตข้อมูลของบริษัทใน
เว็ปไซด์ของบริษัท และลงประกาศขายทัวร์ตามเว็ปไซด์ต่างๆ
            
          1 พฤศจิกายน 2552 – 26 กุมภาพันธ์ 2553  
            ฝึกงานตำแหน่ง ผู้ช่วยดูแลด้านงานเอกสาร  บริษัท อโยเดีย ทัวร์ แอนด์ ทราเวล รีสอร์ท
หน้าที่  ดูแลเอกสารต่างๆของทางบริษัท  จองโรงแรม ที่พัก รวมไปถึงเรือสำราญตามที่ลูกค้ามีคำสั่งจองมา
            
            จัดนิทรรศการของภาควิชาการท่องเที่ยว  คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร
          จัดนิทรรศการของภาควิชาประวัติศสาตร์  ในงาน 40 ปี ของภาควิชาประวัติศาสตร์  คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ทักษะและความสามารถพิเศษอื่นๆ
            - สามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
            - สามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาญี่ปุ่นได้ปานกลาง
            - สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้ เช่น Microsoft Office, Power Point,
Adobe Photoshop เป็นต้น
            - มีความรับผิดชอบ และมีมนุษยสัมพันธ์ดี
            - มีความชอบและความสนใจงานด้านการบริการ

ข้อมูลส่วนตัว
เพศ                                 ชาย
อายุ                                 24 ปี
วันเดือนปีเกิด                    28 พฤศจิกายน 2530
สถานที่เกิด                       จังหวัดพิษณุโลก
สัญชาติ                            ไทย 
เชื่อชาติ                             ไทย
สถานภาพการสมรส           โสด
สุขภาพร่างกาย                  แข็งแรง

ผู้รับรอง : จะแจ้งให้ทราบเมื่อต้องการ