จากการเรียนอาจารย์มีการอธิบายพร้อมมีตัวอย่างหยิบยกมาเสนอให้กับเรา ทำให้เราสามารถที่จะเข้าใจได้ง่าย เพราะโดยปกติแล้วกฎหมายจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเข้าใจได้ยาก เพราะเนื้อหาเยอะและถ้อยคำเข้าใจยาก แต่การเรียนในวันนี้ทำให้เข้าใจในเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายอาญาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้อาจารย์ยังมีการชี้ช่องให้เห็นว่ากฎหมายยังมีช่องว่างทางกฎหมายอยู่ ทำให้บุคคลต่างๆที่กระทำความผิด สามารถใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดของตนเองไปได้
พร้อมกันนี้อาจารย์ยังได้สอนเกี่ยวกับรูปแบบของการทำงานในอดีตและปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ การทำงานในอดีตเราจะทำงานเป็นเวลาที่แน่นอน ตายตัว แต่ในปัจจุบันการทำงานสามารถที่จำได้ตลอด 24 ชั่วโมง การทำงานในอดีตเราจะทำงานในออฟฟิต แต่ในปัจจุบันไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถที่จะทำงานได้เช่นเดียวกัน
จากการที่ได้เรียนในวันนี้ทำให้ทราบเกี่ยวกับกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานซึ่งสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 3 ภาค ด้วยกันคือ
(1).ภาค 1 บทบัญญัติทั่วไป
(2).ภาค 2 ภาคความผิด
(3).ภาค 3 ลหุโทษ
กฎหมายอาญา คือ กฎหมายที่ว่าด้วยความผิดและโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิด ตัวบทที่สำคัญๆ ของกฎหมายอาญาก็คือ ประมวลกฎหมายอาญา นอกจากประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีพระราชบัญญัติอื่นๆที่กำหนดโทษทางอาญาสำหรับการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินั้น เช่น พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พระราชบัญญัติการพนัน เป็นต้น
ทุกสังคมย่อมมีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับความประพฤติของสมาชิกในสังคมนั้นๆ บุคคลใดมีการกระทำที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสังคมหรือคนส่วนใหญ่ จัดเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ดังนั้นกฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันสังคม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยการกำหนดว่า การกระทำใดเป็นความผิดอาญาและได้กำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืน กระทำความผิดนั้นๆ
ทุกสังคมย่อมมีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับความประพฤติของสมาชิกในสังคมนั้นๆ บุคคลใดมีการกระทำที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสังคมหรือคนส่วนใหญ่ จัดเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ดังนั้นกฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันสังคม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยการกำหนดว่า การกระทำใดเป็นความผิดอาญาและได้กำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืน กระทำความผิดนั้นๆ
ลักษณะสำคัญของกฎหมายอาญา
(1).เป็นกฎหมายที่กำหนดเป็นความผิดชัดแจ้ง ในขณะกระทำความผิดต้องมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วอย่างชัดแจ้งว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด เจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมายจะสร้างกฎหมายใหม่ขึ้นมาใช้บังคับแก่ประชาชนคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะไม่ได้ เช่น กฎหมายบัญญัติว่า “การลักทรัพย์เป็นความผิด” ดังนั้น ผู้ใดลักทรัพย์ก็ย่อมมีความผิดเช่นเดียวกัน
(2).เป็นกฎหมายที่ไม่มีผลย้อนหลัง เป็นโทษไม่ได้แต่เป็นคุณได้ ถ้าหากในขณะที่มีการกระทำสิ่งใดยังไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แม้ต่อมาภายหลังจะมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำอย่างเดียวกันนั้นเป็นความผิด ก็จะนำกฎหมายใหม่ใช้กับผู้กระทำผิดคนแรกไม่ได้
(1).เป็นกฎหมายที่กำหนดเป็นความผิดชัดแจ้ง ในขณะกระทำความผิดต้องมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วอย่างชัดแจ้งว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด เจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมายจะสร้างกฎหมายใหม่ขึ้นมาใช้บังคับแก่ประชาชนคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะไม่ได้ เช่น กฎหมายบัญญัติว่า “การลักทรัพย์เป็นความผิด” ดังนั้น ผู้ใดลักทรัพย์ก็ย่อมมีความผิดเช่นเดียวกัน
(2).เป็นกฎหมายที่ไม่มีผลย้อนหลัง เป็นโทษไม่ได้แต่เป็นคุณได้ ถ้าหากในขณะที่มีการกระทำสิ่งใดยังไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แม้ต่อมาภายหลังจะมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำอย่างเดียวกันนั้นเป็นความผิด ก็จะนำกฎหมายใหม่ใช้กับผู้กระทำผิดคนแรกไม่ได้
โทษทางอาญา
1) ประหารชีวิต คือ นำตัวไปยิงด้วยปืนให้ตาย
2) จำคุก คือ นำตัวไปขังไว้ที่เรือนจำ
3) กักขัง คือนำตัวไปขังไว้ ณ ที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ เช่น นำไปขังไว้ที่สถานีตำรวจ
4) ปรับ คือ นำค่าปรับซึ่งเป็นเงินไปชำระให้แก่เจ้าพนักงาน
5) ริบทรัพย์สิน คือ ริบเอาทรัพย์สินนั้นเป็นของหลวง เช่น ปืนเถื่อน ให้ริบ ฯลฯ
1) ประหารชีวิต คือ นำตัวไปยิงด้วยปืนให้ตาย
2) จำคุก คือ นำตัวไปขังไว้ที่เรือนจำ
3) กักขัง คือนำตัวไปขังไว้ ณ ที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ เช่น นำไปขังไว้ที่สถานีตำรวจ
4) ปรับ คือ นำค่าปรับซึ่งเป็นเงินไปชำระให้แก่เจ้าพนักงาน
5) ริบทรัพย์สิน คือ ริบเอาทรัพย์สินนั้นเป็นของหลวง เช่น ปืนเถื่อน ให้ริบ ฯลฯ
มีการกระทำ มี 2 ประเภท
(1).โดยเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ทางตรงได้แก่ ใช้ปืนยิง ทางอ้อมได้แก่ ใส่ยาพิษในอาหาร
(2).โดยไม่เคลื่อนไหวร่างกาย คือ การงดเว้นหน้าที่ และการละเว้นหน้าที่
องค์ประกอบของความผิด มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ
(1).องค์ประกอบภายนอก ได้แก่ การกระทำและสิ่งต่าง ๆ ที่กฎหมายอาญาบัญญัติว่าเป็นความผิด เท่าที่ปรากฏออกมา
(2).องค์ประกอบภายใน ได้แก่ เป็นเรื่องที่กฎหมายที่กำหนดความผิดได้กำหนดไว้เกี่ยวกับจิตใจของผู้กระทำผิด